วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

6 ทริคเด็ด เก็บเงินให้อยู่ ยามฉุกเฉินจะได้อุ่นใจ




......โรคติดต่อที่คุณสาวๆ จะเป็นกันทุกคนนั่นก็คือ ต้นเดือนฉันจะซื้อทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป่า หรือเข้าไปนั่งกินอาหารหรูในร้านเก๋ๆ มารู้ตัวอีกที ก็ตอนกลางเดือนเนี่ยแหละ…เอ๊ะ! ทำไมเงินฉันหมดไวจัง เงินเก็บก็ไม่มี แถมเดือนนี้ยังติดลบอีกต่างหาก…แล้วชีวิตฉันจะรอดก่อนเงินเดือนออกไหมเนี่ย ทำไงดี…?




.. ใช้เงินสดดีกว่า ถ้าไม่จำเป็นอย่าทำบัตรเครดิตกันเชียวนะคะ เพราะถ้าหากเราทำปุ๊บ นิสัยเคยตัวก็จะตามมา…เคยใช้เท่าไหร่ก็พอแค่นั้นค่ะ

.. แต่…ถ้าหากว่าคุณมีบัตรเครดิตหลายใบ เลือกใช้เดือนละใบ จะช่วยคุมค่าใช้จ่ายได้ และจะได้ทราบว่าเดือนนี้ เราจ่ายอะไรไปบ้าง

.. หักเงินเก็บจากเงินเดือนไว้อย่างน้อย 10 % แล้วนำเงินที่เหลือ มาหาร 30 วัน คุณจะรู้ว่าแต่ละวันไม่ควรใช้เงินเกินเท่าไหร่

.. ลงทุนซื้อของชิ้นใหญ่ไปเลย เช่น แชมพูขวดใหญ่ เพราะเทียบปริมาณกับราคาแล้ว รับรองว่าคุ้มกว่าเยอะค่ะ

.. กระปุกออมสินยังไม่เชย เศษเหรียญที่เหลือแต่ละวัน หยอดใส่กระปุกไว้…คุณสาวๆ ทราบไหมคะ ว่าการออมด้วยกระปุกออมสินเนี่ย ทำให้เรามีเงินมากโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะ

.. จดรายการของใช้ที่จำเป็นต้องซื้อ เวลาที่คุณสาวๆ ออกไปเลือกซื้อของที่ห้างสรรพสินค้านั้น แน่นอนเลยค่ะว่า เราจะไม่ได้แค่ของใช้ที่คิดเอาไว้ มันจะตามมาด้วยสิ่งของอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น แถมยังเป็นการสิ้นเปลืองอีกต่างหาก…

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ผลวิจัยชี้ วิ่งถอยหลังมีประโยชน์กว่า วิ่งปกติ



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอเรเแกน สหรัฐอเมริกาชี้แจงว่าการวิ่งถอยหลังนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าการวิ่งปกติ เพราะใช้ความเร็วเพียง 80 เปอร์เซ็นต์ ของการวิ่งปกติ

ทั้งนี้ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัย สเตลเลนบอสช์จากแอฟฟริกาใต้ยังยืนยันว่าการวิ่งถอยหลังยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของหัวใจและหลอดเลือดด้วย จากการทดลองให้ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งวิ่งถอยหลัง 3 ครั้งต่อสัปดาห์เทียบกับคนที่ออกกำลังการเป็นปกติประจำทุกวัน ผลคือ คนที่วิ่งถอยหลังจะลดปริมาณการเผาผลาญออกซิเจน ซึ่งหมายความว่าจะช่วยทำให่ร่างกายมีสุขภาพดีได้มากกว่า และยังเผาผลาญไขมันได้ 2.5 เปอร์เซ็นต์ด้วย

นอกจากนี้ผู้ที่วิ่งถอยหลังเป็นประจำยังบอกว่าการวิ่งถอยหลังนั้นจะมีผลดีต่อข้อต่อ ทำให้เหนื่อยได้เร็วกว่าการวิ่งปกติ และส่งผลดีต่อการทรงตัวและบุคลิกภาพที่ดีด้วย

ตะลึง!! พ่อแม่ผิวดำได้ลูกผิวขาว ผมบลอนด์



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หญิงผิวดำได้ให้กำเนิดลูกชายเป็นเด็กชายผิวขาว ผมบลอนด์ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้เธอและสามีอย่างมาก แต่พวกเขาก็ถือว่าหนูน้อยคือความมหัศจรรย์ของชีวิต

ทั้งนี้ฟรานซิส ชิบิงกุ อายุ 28 ปี และอาร์แลต ชิบิงกุ อายุ 25 ปี เป็นสามีภรรยาผิวดำที่มีลูกชายคนโต คือ


เซท วัย 2ขวบ ซึ่งมีลักษณะทุกอย่างเหมือนกับพ่อแม่ แต่เมื่อลูกชายคนเล็กคลอดออกมาเมื่อ ประมาณ 3เดือนก่อน ก็ทำให้ทั้งคู่ตกตะลึง และไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อหนูน้อยดาเนียล มีสีผิวและสีผมเหมือนคนผิวขาว แตกต่างจากพ่อแม่และพี่ชายอย่างสิ้นเชิง แต่ทั้งคู่ก็มั่นใจว่าหนูน้อยคือลูกของพวกเขาแน่นอน ซึ่งฟรานซิสนั้นพูดติดตลกว่าหากหนูน้อยโตขึ้น คนอื่นคงต้องคิดว่าทั้งคู่ไปขโมยลูกคนอื่นมาเป็นแน่

อย่างไรก็ตามอาร์แลตบอกว่า เมื่อครั้งคุณทวดของคุณทวดของเธอ ก็เคยให้กำเนิดลูกเป็นเด็กผิวขาวเหมือนกัน แต่เธอไม่คิดว่าผ่านมาถึง 6 ช่วงอายุคนแล้วจะยังมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้อีก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอและสามีคงไม่ใช่เรื่องสีผิว แต่พวกเขาหวังให้ลูกชายเป็นเด็กที่มีสุขภาพดีก็พอแล้ว

ภาพถ่าย 3 มิติบนอวกาศ


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเปาโล เนสโพลี่ นักบินอวกาศได้โพสต์ภาพถ่าย 3 มิติ ฝีมือตัวเองขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ลงบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค ยอดฮิตอย่าง ทวิตเตอร์ จนทำให้มีคนติดตามถึง 46,000 คน

นักบินอวกาศสัญชาติอิตาลีคนนี้ปฏิบัติการอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปลายปีที่แล้ว เขามักโพสต์ภาพกิจกรรมที่ทำร่วมกับนักบินคนอื่นๆ รวมทั้งภาพของโลก หรือดวงดาวบนความสูงเหนือวงโคจรโลก ราว 220 ไมล์ (352 ก.ม.) ที่เขาได้พบผ่านทวิตเตอร์ และตอนนี้ยังโพสต์ภาพ 3 มิติอีกด้วย

ทั้งนี้เปาโลบอกว่า เขาภาวนาให้ทุกคนได้มีโอกาสขึ้นมาอยู่บนอวกาศเช่นเดียวกับเขา แต่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ดังนั้นเขาจึงอยากแบ่งปันความรู้สึกและบรรยากาศขณะที่อยู่บนนี้ให้คนอื่นได้รู้สึกเช่นเดียวกับเขาบ้าง

อย่างไรก็ตามทุกวันนี้มีคนกดติดตามเขาผ่านทวิตเตอร์ราว 200 – 500 คนต่อวัน เพราะคนให้ความสนใจและตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เขาโพสต์ ซึ่งภาพ 3 มิติของเขาจะสมจริงก็ต่อเมื่อดูผ่านแว่นสำหรับดูภาพ 3 มิติ

เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์

เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (อังกฤษ: Cannes Film Festival ; ฝรั่งเศส: le Festival de Cannes) เป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1946 ถือเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเทศกาลหนึ่ง และมีอิทธิพลมากที่สุดรวมถึงชื่อเสียง เทียบเคียงกับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสและเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน งานจัดขึ้นประจำปี ราวเดือนพฤษภาคม ที่ Palais des Festivals et des Congrès ในเมืองคานส์ ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส





The 64th Cannes Film Festival winners

Palme d'Or: "The Tree of Life" by Terrence Malick.

Grand Prix (secon prize): "The Kid With a Bike" by Jean-Pierre and Luc Dardenne, and "Once Upon a Time in Anatolia" by Nuri Bilge Ceylan.

Best Director: Nicolas Winding Refn from "Drive".

Best Screenplay: Joseph Cedar from "Footnote".

Best Actor: Jean Dujardin from "The Artist".

Best Actress: Kirsten Dunst from "Melancholia".

Jury Prize (a sort of honorary mention): "Polisse" by Maiwenn Le Besco


ภาพยนต์ไทยคว้ารางวัลเทศกาลหนังเมืองคานส์




ภาพยนต์ไทยเรื่อง"ลุงบุญมีระลึกชาติ" (Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives) ซึ่งกำกับโดยอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล คว้ารางวัลสูงสุดคือ''ปาล์ม ด'อร์" หรือ"ปาล์มทองคำ" ในงานเทศกาลภาพยนต์เมืองคานส์เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ที่เมืองคานส์ประเทศฝรั่งเศส หลังจากก่อนหน้านี้ เขาเคยคว้ารางวัลที่สามจากคานส์ด้วยภาพยนต์ปี 2547 เรื่อง "สัตว์ประหลาด"(Tropical Malady.)

"ลุงบุญมีระลึกชาติ" เป็นการตามรอยวันท้ายๆในชีวิตของผู้ชายที่กำลังจะตายด้วยโรคไตวาย ที่ดูเหมือนความฝัน รวมทั้งการที่ผีของภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วกลับมาคอยรับใช้และลูกชายที่หายไปนานกลับบ้านในรูปของผีป่าขนยาว ภาพยนต์เรื่องนี้พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างคน สัตว์ ต้นไม้ วิญญาน ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว ตามความเชื่อเรื่องผีของชาวบ้าน และมีทั้งลิงผี คนสมสู่กับปลาฯลฯ




รางวัลสำคัญอื่นๆรวมทั้งดาราสเปน ฮาเวียร์ ลาร์เดม ผู้เล่นเป็นคนขายตัวที่ป่วยใกล้ตายในภาพยนต์เรื่อง"ไบอุทติฟูล" (Biutiful) ของผู้กำกับชาวเม็กซิโก"อเลฆานโดร อินาร์ริตู" คว้ารางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม คู่กับเอลิโอ เจอร์มาโน่ของอิตาลี และดาราชาวฝรั่งเศส จูเล็ต บินอช คว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากบทสาวนักค้าของโบราณผู้ไร้สุขในภาพยนต์เรื่อง" เซอทิไฟลด์ ก็อปปี้ "(Certified Copy) โดยผู้กำกับชาวอิหร่าน อับบาส คิอาโรสตามี

ชัยชนะของอภิชาติพงศ์วัย 39 ปีสร้างความแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้ ภาพยนต์ที่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ชื่นชมที่สุดคือ" ออฟ กอดส์ แอนด์ เมน" ซึ่งสร้างของเรื่องจริงของพระคาทอลิคชาวฝรั่งเศส 7 คนที่ถูกตัดศีรษะในสงครามกลางเมืองในแอลจีเรียเมื่อปี 2539 ของผู้กำกับชาวฝรั่งเศสชื่อซาเวียร์ โบวัวส์ ซึ่งปรากฏว่าได้รางวัลที่สองไปครอง

อภิชาติพงศ์กล่าวหลังรับรางวัลจากทิม เบอร์ตัน ผู้กำกับภาพยนต์ชาวอเมริกันชื่อดัง ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะกรรมการตัดสิน 9 คนในปีนี้ ได้กล่าวขอบคุณวิญญานในไทยที่ล้อมรอบตัวเขา กับพ่อและแม่ที่เมื่อ 30 ปีก่อนพาเขาไปดูภาพยนต์ที่โรงภาพยนต์เล็กๆในเมืองเล็กๆที่เขาอยู่ สมัยที่เขายังเด็กและไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องบนแผ่นฟิล์ม และไม่รู้คอนเซ็ปของภาพยนต์ หลังจากได้รางวัลนี้ เขาคิดว่าได้รู้เรื่องภาพยนต์มากขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ก็ยังเป็นปริศนาอยู่ ซึ่งเขาคิดว่าปริศนานี้ทำให้คนยังกลับมาและร่วมแบ่งปันโลกด้วยกัน

นักวิจารณ์พากันระบุว่างานเมืองคานส์ปีนี้หงอยกว่าทุกปี มีดาราใหญ่น้อยกว่าปกติ ภาพยนต์ที่เข้ารอบก็ไม่ค่อยฮิต แม้จะยังมีผลงานของผู้กำกับดังๆเข้าร่วมด้วย และมีภาพยนต์เอเชียเข้าร่วมแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ 5 เรื่องรวมทั้งภาพยนต์เกาหลีใต้เรื่อง"เดอะ เฮาส์เมด"(The Housemaid)

คานส์ได้ขอให้จาฟาร์ ปานาฮี ผู้กำกับชาวอิหร่านร่วมเป็นกรรมการแต่เขาติดคุกที่เตหะรานมาตั้งแต่มีนาคมในข้อหาวางแผนสร้างภาพยนต์ต่อต้านผู้นำอิหร่าน ซึ่งทั้งรัฐบาลฝรั่งเศสและทางผู้จัดเทศกาลภาพยนต์เมืองคานส์ได้เรียกร้องให้ปล่อยเขา และปานาฮีก็ตำหนิการจับกุมเขาในจดหมายที่ส่งถึงคานส์ นอกจากนี้ ยังมีความขัดแย้งเรื่องภาพยนต์"เอ้าไซด์ เดอะ ลอว์" (Outside the Law) ภาพยนต์สยองขวัญเกี่ยวกับการดิ้นรนเป็นเอกราชของแอลจีเรีย "ที่มีผู้ประท้วงกล่าวหาผู้กำกับคือราชิด บูชาเรบว่าเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นใหม่เองอีกด้วย