วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อาหารต้านเครียด...คืนความสดใสให้ผิว



คุณสาว ๆ เคยสังเกตหรือไม่ว่ารอบ ๆ ตัวเราเต็มไปด้วยปัญหาร้อยแปดพันอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ หรือปัญหาการเมือง และด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบทำให้เราเกิดความเครียดพ่วงความกดดันได้ง่าย บางครั้งก็อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่ผลกระทบที่เกิดจากความเครียดนั้นมีมากมาย ทั้งสุขภาพร่างกาย จิตใจ เช่น หงุดหงิด กลัว วิตกกังวล ปวดหัว อ่อนเพลีย หมดเรี่ยวแรง ย้ำคิดย้ำทำ เกิดอาการผิดปกติทางประสาทหรือทางใจ หรือแม้กระทั่งมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งถ้าเกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือเกิดระยะยาวนานก็จะทำให้จิตใจปั่นป่วน และเกิดอาการทุกข์ทางใจที่ยากเกินแก้ไขได้


แน่นอนค่ะว่า คงไม่มีใครต้องการให้ตัวเองเครียด ซึ่งวิธีหนึ่งที่ได้ผลก็คือ การเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ นอกจากจะสามารถช่วยต้านความเครียดแล้วยังคืนความสดใสให้เราได้เหมือนเดิมอีกด้วย ซึ่งอาหารที่เราเห็นอยู่ทุกวันนั้นก็มีทั้งประโยชน์และโทษต่อร่างกาย ดังนั้นเราควรจะใคร่ครวญให้ดีก่อนว่า ควรรับประทานอาหารประเภทใดที่จะมีประโยชน์ ต่อร่างกายและหลีกเลี่ยงอาหารที่จะให้โทษแก่ร่างกาย โดยควรปฏิบัติดังนี้


หลีกเลี่ยงอาหารที่เพิ่มความเครียด ได้แก่ อาหารที่มีแคลอรี่สูง เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมคาเฟอีน อาหารขยะและอาหารจานด่วน อาหารเหล่านี้หากรับประทานเป็นประจำนอกจากจะทำให้เกิดโรคอ้วน เนื่องจากได้รับแต่แคลอรี่ล้วน ๆ แล้ว เกลือในอาหารก็เป็นตัวช่วยในการเพิ่มความดันโลหิตสูง นอกจากนี้สารกันบูดในอาหารจะทำให้ร่างกายอ่อนแอและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจึงต้องหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ หรือรับประทานได้เป็นครั้งคราว


ควรหันมารับประทานอาหารแนวธรรมชาติที่ให้ความสมดุลในร่างกาย ซึ่งได้แก่ อาหารหลัก 5 หมู่ อาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ อาหารไขมันต่ำ นอกจากนี้การทานวิตามินบีและสารอาหารประเภทแอนตี้ออกซิเดนท์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีก็จะช่วยให้ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันและทนต่อความเครียดในสภาวะต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งการทานวิตามินซีนอกจากจะช่วยต้านความเครียดแล้วยังมีประโยชน์มากมายที่สาว ๆ ชอบกันมากคือ ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ช่วยต้านหวัด ยิ่งในปัจจุบันยังมีให้ทานในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย ทำให้ง่ายและสะดวกในการรับประทาน


สุดท้ายการมองโลกในแง่ดี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้การทำร่างกาย จิตใจ ให้เป็นสมาธิหรือเดินทางสายกลาง ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป หรือหย่อนยานจนเกินไป เหล่านี้ก็จะทำให้เรื่องเครียดเป็นปัญหาที่เราสามารถจัดการออกไปได้ไม่ยาก

10 วิธีทําให้คนอื่นชื่นชอบคุณ

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน การได้เป็นที่รัก ที่ชอบพอของคนรอบตัวนั้น ก็นับเป็นสิ่งประเสริฐที่ทุกคนปรารถนา แต่ต้องคำนึงถึงความถูกต้องดีงามเป็นพื้นฐานด้วย ไม่ใช่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนอื่นพอใจรักใคร่ ทั้ง 10 ข้อที่จะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นสูตรปรุงเสน่ห์ ซึ่งทำได้ไม่ยาก แต่ท้าทายให้ทุกคนใส่ใจและทดลองปฏิบัติ ที่เห็นว่าเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ถึงเวลา หากสำรวจเข้าจริงๆ บางคนก็ขาดไปหลายข้อเหมือนกัน เพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นผมบังภูเขา ง่ายเสียจนเราละเลย ลืมให้ความสำคัญ ลืมปฏิบัติกันให้เป็นนิสัย
1. จำชื่อเขาให้ได้
ถ้ายังจำชื่อใครต่อใครไม่ได้ หรือจำผิดจำถูก แสดงว่าคุณไม่ใคร่สนใจไยดีหรือให้ความสำคัญในตัวเขานัก คุณรู้ไหมว่า ชื่อคนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความรู้สึกของคนอย่างมากมาย รีบจำชื่อเขาให้ได้ และเรียกให้ถูกนะครับ
2. รู้จักทักทาย
การทักทายใครต่อใครก่อน เป็นความน่ารักอย่างหนึ่ง สะท้อนให้เห็นความมีมิตรจิตมิตรใจ ทำให้ผู้ถูกทักทายรู้สึกดีว่าได้รับความใส่ใจ มีคนให้ความสำคัญ เราจะจำชื่อคนให้ได้ไปทำไมกันครับ ถ้าจำได้แล้วไม่รู้จักทักทายกัน?
3. วางตัวสบายๆ ได้หรือเปล่า
จงเป็นคนที่วางตัวสบายๆ เสมอ เพื่อผู้อื่นจะได้ไม่รู้สึกเครียดเมื่ออยู่ใกล้ๆ คุณโปรดเป็นกันเอง อย่าถือเนื้อถือตัว อย่าเจ้ายศเจ้าอย่าง เพราะมันจะน่ารำคาญ น่าเกลียดน่ากลัว มากกว่าน่าเข้าใกล้
4. มีนิสัยง่ายๆ
นิสัยง่ายๆ เป็นคนละเรื่องกับมักง่าย หากคุณเป็นคนง่ายๆ มีความยืดหยุ่นสูง และรู้จักผ่อนปรนอารมณ์ของคุณก็มักจะคงที่ ไว้ใจได้ ทำนายได้ ไม่แปรปรวนจนยากแก่การควบคุมหรือไว้ใจ คนง่ายๆ มักยอมรับและเข้าใจได้ แม้กับคนที่น่ารำคาญที่สุด ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้กับคนที่อารมณ์คงที่ ยืดหยุ่น และถือสาใครต่อใครน้อยมาก เพราะอะไรครับ เพราะว่าบางครั้ง เราก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเราเองมีอะไรที่น่ารำคาญบ้าง ง่ายๆ วางใจ ไม่ถือสากันนี่ละ ดีที่สุด
5. อย่าอวดตัวเอง
จงระวัง อย่าแสดงว่าคุณรู้อะไรๆ ไปหมดเสียทุกเรื่อง ไม่มีใครอยากจะชอบพอกับคนที่ฉลาดไปเสียทุกเรื่องหรอก บางเรื่องเขาก็อยากฉลาดบ้างเหมือนกัน ดังนั้นโปรดวางตัวตามธรรมชาติ (คือมีทั้งเรื่องที่รู้และไม่รู้) ถ่อมตน และสุภาพตามกาลเทศะจะดีกว่า
6. จงมีนิสัยร่าเริง
เพื่อคนทั้งหลายจะได้ชอบอยู่ใกล้ และ "ติด" ในความร่าเริงที่คุณมี แล้วคุณจะได้รับความรู้สึกดีๆ ได้เรียนรู้ในสิ่งดีๆ จากคนเหล่านี้ เมื่อคบค้าสมาคมด้วย
7. จงพยายามแก้ไขความเข้าใจผิด
คุณอาจเคยมองใครในแง่ร้ายๆ ไปบ้าง คุณอาจเคยถือสาการกระทำครั้งโน้นครั้งนี้ของเขา หากคุณมีเวลา จงพยายามแก้ไขความเข้าใจผิดหรือความถือสาที่เคยมี รวมทั้งที่กำลังมีอยู่ให้หมดไป มิตรภาพไม่อาจก่อเกิดหรืองอกงามได้ ท่ามกลางความระแวงแคลงใจ จงขจัดความขุ่นข้องหมองใจ ความไม่ชอบใจ และความเจ็บใจให้หมด แล้วคุณจะเป็นคนน่ารักที่ไม่มีใครผูกใจเจ็บ
8. ทิ้งมันไป...นิสัยเสียๆ
บางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่า เรามีนิสัยอะไรที่เป็นข้อบกพร่องอยู่ในตัวบ้าง การเงี่ยหูฟังจากคนรอบข้าง จะช่วยให้เรารู้ เมื่อเรารู้แล้ว เรามีหน้าที่ต้องกำจัดนิสัยที่ทำให้คนอื่นตั้งเป็นข้อรังเกียจออกไป แม้ว่านิสัยบางอย่างนั้น อาจมีอยู่หรือทำไปโดยที่เราไม่ได้รู้ตัวมาตลอดก็ตาม
9. จงหัดชอบคนอื่นบ้าง
น่าประหลาด... คนบางคนเกลียดใครต่อใครได้ไวมาก ลองหัดชอบคนอื่นจนกลายเป็นนิสัยดีไหมครับ ชอบที่เขาเป็นอย่างนั้น ชอบที่เขาคิดอย่างนี้ ชอบในสิ่งที่เขาพูดจา ฯลฯ พึงท่องคาถาประจำใจเอาไว้ให้ตลอดเถิดว่า “ข้าพเจ้าไม่เคยพบกับบุคคลที่ข้าพเจ้าไม่รู้สึกชอบเลย”
10. ชมเชยให้เป็น
อย่าละทิ้งโอกาสที่จะกล่าวคำชมเชย เมื่อใครคนใดคนหนึ่งใกล้ๆ ตัวคุณ ได้กระทำในสิ่งที่ดี เป็นแบบอยางต่อผู้อื่น หรือทำอะไรได้สำเร็จสักอย่างหนึ่ง ในเวลาเดียวกัน ก็ต้องรู้จักแสดงความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ ในความทุกข์ร้อนและความผิดหวังของพวกเขาด้วย พูดง่ายๆ ได้ว่า หัดเป็นคนมีหัวใจซะบ้าง!

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อาหารขึ้นชื่อของฝรั่งเศส

ครัวซ็อง
ครัวซ็อง (ฝรั่งเศส: croissant, ออกเสียง: /kʀwa.sɑ̃/) คือขนมอบชนิดหนึ่งที่กรอบ ชุ่มเนย และโดยทั่วไปจะมีลักษณะโค้งอันเป็นที่มาของชื่อ "croissant" ซึ่งในภาษาฝรั่งเศสหมายถึง "จันทร์เสี้ยว" บางทีก็ถูกเรียกว่า crescent roll (โรลจันทร์เสี้ยว)

การทำครัวซ็องจะต้องใช้แป้งพายชั้น (puff pastry - พัฟเพสทรี) ที่ผสมยีสต์ นำมารีดให้เป็นแผ่น วางชั้นของเนยลงไป พับและรีดให้เป็นแผ่นซ้ำไปมา ตัดเป็นแผ่นสามเหลี่ยม นำไปม้วนจากด้านกว้างไปด้านแหลม บิดปลายให้โค้งเข้าหากัน อบโดยใช้ไฟแรงให้เนยที่แทรกอยู่เป็นชั้นดันแป้งให้ฟูก่อน จึงค่อยลดไฟลงไม่ให้ไหม้







บาแก็ต



บาแก็ต (ฝรั่งเศส: baguette, ออกเสียง /baɡɛt/) หรือ ขนมปังฝรั่งเศส เป็นขนมปังมีลักษณะรูปทรงเป็นแท่งยาวขนาดใหญ่ เปลือกนอกแข็งกรอบ เนื้อในนุ่มเหนียว และเป็นโพรงอากาศ มักนำมาหั่นเฉียงเป็นแผ่นหนา เพื่อรับประทานกับซุป ปาดเนยสด หรือประกอบทำเป็นแซนด์วิช
แต่อดีตจะรับประทานเปล่า ๆ ไม่มีส่วนผสมใด ๆ

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

รถสปอร์ตซุปเปอร์คาร์ 6 ล้อ คันแรกของโลก



Mthai News : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานการเปิดตัวรถยนต์ 6 ล้อ คันแรกของโลกที่งานเทศกาล กู๊ดวู๊ด ประเทศอังกฤษ รถคันนี้ยี่ห้อโควินี่ รุ่น C3A ซึ่งข้างหน้ามี 4 ล้อ และข้างหลังอีก 2 ล้อ เครื่องยนต์ 4.2 ลิตร 500 แรงม้า ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 300 กม./ชั่วโมง

ทั้งนี้ ความโดดเด่นของรถยนต์ คันนี้ คือ ตัวรถทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ล้อ 4 ล้อด้านหน้านั้น ช่วยป้องกันการระบิดได้ หากว่า ล้อใดล้อหนึ่งเกิดระเบิด อีก 3 ล้อจะช่วยพยุงไม่ให้รถคว่ำ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรคและยึดเกาะถนน มีใบพัด 6 อัน เพื่อช่วยไล่ความร้อนและความชื้น ล้อหลัง 2 ล้อ ส่วนประตูเปิดแบบยกขึ้น ดีไซน์ข้างในนั้นออกแบบตามแต่ลูกค้าต้องการ ที่สำคัญมีน้ำหนักเพียง 1,150 กิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม รถรุ่นนี้ไม่มีวางจำหน่าย จึงยังไม่มีการกำหนดราคาที่แน่นอนไว้ แต่หากในอนาคต รถ 6 ล้อเป็นที่ต้องการของตลาด ก็อาจมีผู้ผลิตรายอื่นผลิตรถแบบนี้ออกมาขายก็ได้