คุณค่าที่เราได้รับจากน้ำผึ้งนั้นมีอยู่มากมาย ทั้งนี้เพราะว่าน้ำผึ้งก็จัดได้ว่าเป็นสมุนไพรไทยที่มีคุณค่าทางยารักษาโรค และอุดมไปด้วคุณค่าทางอาหาร
สำหรับในเมืองไทยน้ำผึ้งที่ดีต้องเป็นน้ำผึ้งเดือนห้า (เดือนมีนาคม - เมษายน) เพราะเป็นเดือนที่มีดอกไม้บานเป็นจำนวนมาก และจะไม่มีน้ำฝนปนในน้ำผึ้งเนื่องจากเป็นหน้าแล้งอย่างเพลงที่ร้องว่า "เปรียบเธอเพชรงามน้ำหนึ่ง หวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า" นั่นแหล่ะ เนื่องจากน้ำผึ้งแท้เป็นของหายาก จึงมีคนทำน้ำผึ้งปลอมมาหลอกขายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เช่น วิธีการนำน้ำมาใส่ในปี๊บกับน้ำตาลและใส่แบะแซทำขนม ต้มเคี่ยวไฟอ่อนๆ ก็จะได้สีน้ำผึ้ง ถ้าอยากได้นำผึ้งสีดำก็ใช้ไฟแก่เคี่ยว จากนั้นอาจใช้ผลมะตูมอ่อนฝานลงไป มะตูมจะมีกลิ่นออกคล้ายน้ำผึ้ง ถ้าจะให้เหมือนจริงก็นำน้ำผึ้งแท้มาทาปากขวดแล้วนำแม่ผึ้งไปเกาะ เท่านี้ก็หลอกเงินในกระเป๋าผู้ที่พิสมัยรสชาติของน้ำผึ้งได้โดยไม่ยาก
ดังนั้น ผู้บริโภคควรสังเกตให้ดีก่อนซื้อ สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการรับประทานน้ำผึ้งสามารถพิสูจน์ได้ง่ายๆ จากการดูลักษณะ และการชิม แต่สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยก็มีวิธีดูค่ะว่าน้ำผึ้งแท้ไม่แท้อย่างไร
น้ำผึ้งแท้ๆ ดูอย่างไร
- เมื่อใช้ไม้จิ้มน้ำผึ้งขึ้นมาจะหยดไหลเป็นสายบางๆ ไม่ขาดสายและจะพบกองเป็นชั้นๆ ก่อนที่จะรวมเป็นเนื้อเดียวกัน
- หยดน้ำผึ้งลงบนกระดาษซับจะกองเป็นหยดอยู่ระยะหนึ่ง ไม่ซึมหายไปเช่นน้ำเชื่อม
- หยดน้ำผึ้งลงในน้ำ จะกองเป็นก้อนก่อนแล้วจึงค่อยๆ ละลาย
- โปร่งแสง
- มดไม่ขึ้น
- ถ้าอุณหภูมิต่ำน้ำผึ้งจะมีผลึกน้ำตาลกลูโคสตกเป็นเกล็ดเล็กๆ
- ถ้าหยดน้ำผึ้งลงบนสไลด์แล้วดูด้วยกล้องจุลทัศน์ จะพบละอองเกสรดอกไม้หลายๆ ชนิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะมีรูปร่าง ขนาด สีที่แตกต่างออกไป (พบในน้ำผึ้งธรรมชาติที่ไม่ใช่ผึ้งเลี้ยง)
วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้แบบโบราณ
- หยดน้ำผึ้งลงบนกระดาษมวนยาสูบ ถ้าเป็นน้ำผึ้งจริงจะจับกันเป็นก้อนไม่ดูดซับ ถ้าเป็นน้ำผึ้งเทียมจะดูดซึมน้ำหมดทำให้จุดไฟไม่ติด
- หยดลงในน้ำ ถ้าน้ำผึ้งแท้จะรวมกันอยู่ใต้แก้ว แต่ถ้าน้ำผึ้งเทียมน้ำจะละลายกระจายไม่รวมตัวกัน
จำไว้ง่ายๆ ว่า น้ำผึ้งที่ดีดูได้จากความใสบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งสกปรกหรือผึ้งปนอยู่ สี กลิ่น และรสจะมีลักษณะเฉพาะตามแบบของน้ำผึ้ง เช่น ข้น หนืด ไม่มีฟอง ก๊าซ หรือเกิดการแยกชั้นตกผลึก และไม่มีรสเปรี้ยวเลย ใครที่จะซื้อน้ำผึ้งก็นำเคล็ดไม่ลับนี้ไปประกอบการซื้อได้ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น